วันจันทร์ที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2563

สรุป Ep.3 The King Eternal Monarch

สรุป The King Eternal Monarch Ep.3


ความเดิมตอนที่แล้ว
อีกอน แต่งตั้งให้จองแทอึลเป็นพระมเหสีของเขา เพียงเพราะเธอเพิ่งจะกลายเป็นเหตุผลที่ทำให้เขาควรอยู่บนโลกในนี้ เขารู้สึกจริงจังกับเธอมาก แต่จองแทอึลไม่รู้สึกแบบนั้นเลย เธอคิดว่าอีกอนพูดเล่น เธอไม่เชื่อคำพูดเหล่านั้น จองแทอึลเสนอว่าให้พาเธอไปที่โลกคู่ขนาน แล้วให้เธอแสดงตัวเป็นพระมเหสีของเขา อีกอนจึงพาเธอไปที่ป่าไผ่ที่เขาผ่านมายังโลกนี้ แต่ไม่ได้นำขลุ่ยไปด้วย ประตูจึงไม่ปรากฎให้แทอึลเห็น ทำให้เธอคิดว่าเขาต้องหลอกเธอแน่ๆ เธอหัวเสียสุดๆ


คังชินแจ เขาค้นพบสัญลักษณ์ที่อานม้าของเจ้าหน้าที่ระดับ 7 แม็กซิมุส มันเหมือนสัญลักษณ์ที่เขาเคยจดไว้ในสมุดบันทึก (มันคือตราสัญลักษณ์ของราชวงศ์ อาณาจักรคอริน แห่งจักรวรรดิเกาหลี)


สำนักงานตำรวจมีการต้อนรับน้องใหม่ จางมิคาเอล (จางมี) ที่จะร่วมทำงานสืบสวนกับทีมของจองแทอึล พวกเขาไปค้นหาหลักฐานในการฆาตกรรมในที่เกิดเหตุ และได้เจอหลักฐานสำคัญเป็นแท่งเหล็กที่คล้ายรอยแผลบนศพ และคราบเลือดบนเหล็กงัดมีทั้งของผู้ต้องสงสัยคิมบกและเหยื่อ ทำให้สามารถปิดคดีฆาตกรรมลงได้ แต่แทอึลก็เอาแต่สงสัยว่า ทำไมคิมบกถึงปฏิเสธเสียงแข็งท่าเดียวว่าไม่ได้เป็นคนฆ่าเหยื่อ (เธอคิดว่าเหมือนมีใครบางคนวางแผนไว้เป็นอย่างดี) พวกเขาจึงกลับไปสืบอีกครั้ง และได้พบหลักฐานใหม่(มือถือแบบพับ คังชินแจจึงเก็บมาให้แทอึล)


คังชินแจ นึกถึงวันที่เขาได้เป็นครูฝึกที่สำนักเทควันโดของพ่อแทอึล เขาได้ทำเสียเรื่องจนลูกศิษย์เด็กๆที่นั้นจะลาออกกันหมด เขาจึงถูกพ่อแทอึลไล่ออก และแนะนำให้เขาไปสมัครตำรวจ จนทำให้เขาได้มาเป็นตำรวจสืบมาจนถึงปัจจุบันนี้


อึนซอบให้ข้อมูลต่างๆที่อีกอนอยากรู้ เขาจึงโดนแทอึลทำร้ายร่างกายบ่อยๆ อีกอนจึงอยากขอโทษเขาเลยแต่งตั้งให้เขาเป็นองครักษ์ส่วนพระองค์ แต่ดูเหมือนอึนซอบจะไม่ได้อยากเป็นองครักษ์สักเท่าไร


นักข่าวสาว มยองซึงอา ถูกทาบทามจากโนซังกุงให้ช่วยโพสข่าวต่างๆที่เกี่ยวกับอีกอน ทำให้เธอได้มีโอกาสได้ใกล้ชิดกับ องครักษ์โจยอง เธอเลือกรูปคู่ของอีกอนและโจยองโพสลงทุกโซเชียลมีเดีย


วันนี้เป็นวันที่จองแทอึลได้รับข้อมูลการตรวจดีเอ็นเอของอีกอน ผลการตรวจไม่พบตัวตนของอีกอนในฐานข้อมูล และอีกข่าวที่ทำให้เธอแปลกใจคือ ผลการตรวจสอบประวัติของแม็กซิมุส ก็ไม่พบที่นี่เช่นกัน ทำให้เธอรู้สึกหงุดหงิดมาก เธอต้องการคำตอบจึงนัดให้อีกอนมาพบ แต่สุดท้ายเธอก็ไม่เชื่อเขาอยู่ดี

ประวัติศาสตร์ของจักรวรรดิเกาหลีคอริน มีการขัดแย้งทางเมืองกับญี่ปุ่น ตั้งแต่ปี 1592 และสงครามพร้อมจะเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ดังนั้น ในปี 1945 พระเจ้าแฮจง เสด็จปู่ของอีกอน จึงประกาศใช้ราชาธิปไตยภายใต้รัฐธรรมนูญ ให้รัฐสภาคงอยู่ที่กรุงโซล แต่ย้ายพระราชวังไปปูซาน เพื่อแสดงให้เห็นว่า กษัตริย์จะเป็นผู้เผชิญกับศัตรูเป็นด่านแรก ดังนั้นในโลกของอีกอน รูปปั้นอีซุนชินจึงตั้งอยู่ที่ปูซาน เพื่อเป็นสัญลักษณ์ว่า จะไม่มีใครข้ามทะเลมารุกรานจักรวรรดิเกาหลีได้ 

อีกอนยังคงสงสัยในผลการชันสูตรศพของอีริม ทั้งลายนิ้วมือและดีเอ็นเอตรงกับกบฏอีริมทุกอย่าง แต่อีกอนยังไม่เชื่อว่าอีริมตายแล้ว  เขาอ่านรายงานซ็ำไปซ้ำมา เขาคิดว่าศพนี้เหมือนอีริมก็จริงแต่ก็มีบางจุดที่ชี้ว่าไม่ใช่เขา บางทีสัญลักษณ์ทางคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ ก็สามารถช่วยให้เขาเข้าใจปรากฏการณ์บางอย่าง เช่นเครื่องหมายบวก ไม่มีความหมายในตัวมันเอง แต่เมื่อเป็นสัญลักษณ์แล้วจะแปลว่าการเพิ่มเข้าไป ถ้าสมมุติว่า ศพของอีริมถูกใช้เป็นสัญลักษณ์เพื่อแสดงว่าเขาตายไปแล้ว คำถามที่ใหญ่กว่านั้น คือศพที่มีดีเอ็นเอเหมือนเขาคืออะไรกันแน่ มีอะไรเพิ่มเข้าไปในตัวกบฏอีริมกันแน่


อีกอนรู้สึกเจ็บปวดทุกครั้งที่ในวันที่ฝนตกฟ้าร้องฟ้าผ่า ที่หัวไหล้ด้านขวาของเขามีรอยคล้ายสายฟ้าเกิดขึ้น มันทำให้เขาทรมานมาก


แทอึลรถเสียอยู่ข้างทาง เธอจึงโทรไปหาพ่อเพื่อให้มาช่วยเธอ แต่อีกอนเป็นคนรับสาย เธอรู้สึกแปลกใจมาก แต่ที่ทำให้เธอรู้สึกแปลกใจมากกว่าคือการที่อีกอนตัดสายเธอทิ้งทันที (อีกอนแก้แค้นคืนที่เธอมักจะทำกับเขาบ่อยๆตอนที่เขาโทรหาเธอ) เขามาอยุู่ที่โรงเรียนเทควันโดของพ่อแทอึลตั้งแต่มาอยู่ที่โลกนี้ พ่อของเธอต้อนรับและดูแลเขาดีมาก แทอึลต้องการให้พ่อมาเฝ้ารถให้เธอจนกว่าช่างจะมา แต่อีกอนอาสาจะไปดูให้ เขาให้เธอรอจนกว่าเขาจะไปหา ปรากฎว่าในขณะเขามาถึงและหยุดคุยกับเธอ


ทุกสิ่งทุกอย่างก็หยุดนิ่งไป เธอหยุดอยู่ในท่ากำลังมัดผม มันทำให้อีกอนรู้สึกว่าเธอดูสวย เขายืนจ้องเธออยู่อย่างนั้นจนกระทั่งทุกอย่างเคลื่อนไหวอีกครั้ง เขาบอกเธอว่าเวลาหยุดเดิน แต่เธอไม่เชื่อ (เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเพราะว่าอีริมได้ข้ามมายังโลกคู่ขนาน มาเพื่อพบกับลูกน้องคนสนิท เขาเตรียมการรวบรวมไพร่พลเอาไว้เพื่อหวังจะชิงบังลังก์อีกครัั้ง) 



อีกอนได้ขับรถไปที่ป่าไผ่อีกครั้งพร้อมกับนำขลุ่ยไปด้วย และเขาก็ได้ยินเสียงขลุ่ยดังขึ้น พร้อมกับเสียงฟ้าร้อง เหมือนกับวันนั้น ประตูมิติระหว่างสองโลกปรากฎให้เขาเห็นอีกครั้ง  เขาจึงสันนิษฐานว่ามันพาชิกจ็อกคือกุญแจนำทาง และมันพาชิกจ็อกอีกครึ่งหนึ่งที่อยู่กับอีริม ก็คงพาเขาข้ามมาโลกคู่ขนานและ สามารถข้ามไปมาระหว่างสองโลกได้เช่นเดียวกับเขา ดังนั้น กบฏอีริมน่าจะยังมีชีวิตอยู่ (มันพาชิกจ็อกเป็นทั้งกุญแจและแม่กุญแจเช่นกัน)


อีกอนออกมาตามหาแทอึล แต่ก็ได้พบกับพวกอันธพาลที่พยายามจะทำร้ายคังชินแจและจองแทอึล ทีแรกได้เขายืนดูเฉยๆ ปล่อยให้ทั้งสองคนถูกรุม แต่แล้วเขาก็อดทึ่งกับแทอึลที่สู้แบบไม่ห่วงตัวเอง จึงเข้าไปช่วยเธอ หลังจากที่ทั้งสามคนกลับจากที่เกิดเหตุก็ชวนกันไปกินข้าวแล้ว ชินแจอาสาไปส่งอีกอนที่บ้าน เพราะมีเรื่องอยากจะถามเกี่ยวกับสัญลักษณ์บนอานม้า อีกอนพยายามจะบอกชินแจว่าสัญลักษณ์นี้เป็นสัญลักษณ์พระราชวังจักรวรรดิเกาหลีที่อยู่ในโลกอีกใบหนึ่ง ไม่ใช่ที่นี่ และตัวเขาเองก็เป็นกษัตริย์ของที่นั่น คังชินแจได้ยินดังนั้น จึงเดินหนึออกมาเลย


อีกอนกำลังจะกลับไปยังโลกของเขา ก่อนจะจากไปเขาแวะไปที่ห้องสมุดและได้เลือกหนังสือเล่มหนึ่ง(ดอกจินดัลเร รวมบทกลอนของคิมโซวอล)  "ชื่อที่แตกสลายเป็นเสี่ยงๆ ชื่อที่ถูกแยกออกกลางอากาศ ชื่อที่เรียกเท่าไร ก็ไม่มีเจ้าของ ชื่อที่ฉันจะเรียกมันไปจนตาย แต่สุดท้ายแล้ว ฉันก็ไม่สามารถพูดทุกอย่างที่ค้างคาอยู่ในใจได้ คนคนนั้นที่ฉันเคยได้รัก"  จองแทอึลถึงกับใจหายที่กลับมาบ้านแล้วไม่พบแม็กซิมุสที่ลานกว้าง เสียงขลุ่ยดังขึ้นอีกครั้ง ประตูเปิดออกและพาเขากลับไปยังโลกคู่ขนาน...

Review-Series-By-Pae
https://pp-review-series.bloggang.com
https://pp-review-series.blogspot.com/
https://www.blockdit.com/pae

ติดตามดูซีรีส์ทางช่อง Netflix https://www.netflix.com/th/
ขอขอบคุณรูปภาพสวยๆจากhttps://www.facebook.com/LeeMinHoMinozGeorgia/photos
ขอขอบคุณซีรีส์ดีๆจากช่อง Netflix https://www.netflix.com/th/





ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Hotel Del Luna (2019) คำสาปจันทรา กาลเวลาแห่งรัก

  Hotel Del Luna (2019) คำสาปจันทรา กาลเวลาแห่งรัก พลาดไม่ได้กับเรื่องนี้ ฮอตสุดปัง ใครยังไม่ได้ดู ขอแนะนำเรื่องนี้ สนุกครบรส อีจีอึน / ไอยู...